เมื่อส่งข้อมูลทางโทรศัพท์ที่บันทึกภาพการข่มขืนหญิง ไปยังบุคคลอื่นเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหญิงนั้นด้วยการโฆษณาตาม ป.อ. มาตรา 328 หรือไม่
ศึกษาวิเคราะห์จากฎีกา 1447/2557
ป.อ. มาตรา 326, 328 หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
ข้อเท็จจริง
1. พนักงานอัยการจังหวัดนราธิวาสโดยยื่นฟ้องจำเลยว่า วันใดไม่ปรากฏชัดประมาณต้นเดือนมีนาคม 2552 เวลากลางวัน จำเลยหมิ่นประมาทผู้เสียหายด้วยการโฆษณาด้วยสิ่งบันทึกภาพและเสียงโดยการส่งข้อมูลซึ่งมีภาพและเสียงผู้เสียหายในขณะจำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ของนาย อ. ขณะอยู่ในความครอบครองของนาย ซ. อันเป็นการใส่ความผู้เสียหายต่อบุคคลที่สามที่ได้เห็นภาพและเสียงหลงเชื่อว่าผู้เสียหายไม่รักนวลสงวนตัว ยินยอมร่วมเพศกับจำเลยและให้จำเลยบันทึกภาพและเสียง เป็นการลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ของผู้เสียหาย โดยการกระจายภาพและเสียงทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ต่อมาวันเวลาใดไม่ปรากฏชัด ประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2552 เวลากลางวัน จำเลยหมิ่นประมาทผู้เสียหายโดยการโฆษณาด้วยสิ่งบันทึกภาพและเสียงโดยการส่งข้อมูลซึ่งมีภาพและเสียงผู้เสียหายในขณะจำเลยกระทำเราผู้เสียหายผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบุคคลใดไม่ปรากฏชัดและบุคคลทั่วไป อันเป็นการใส่ความผู้เสียหายต่อบุคคลที่สามที่ได้เห็นภาพและเสียงหลงเชื่อว่าผู้เสียหายไม่รักนวลสงวนตัว ยินยอมร่วมเพศกับจำเลยและให้จำเลยบันทึกภาพและเสียงเป็นการลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ของผู้เสียหายโดยการกระจายภาพและเสียงทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง เหตุเกิดที่ตำบลริโก๋ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ภายในอายุความแล้ว ขอให้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 91, 326, 328
2. คดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาหรือไม่ ซึ่งศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า
"การบันทึกภาพและเสียงเป็นการกระทำระหว่างผู้เสียหายกับจำเลยเป็นเรื่องส่วนตัวอย่างแท้จริงระหว่างผู้เสียหายกับจำเลย ไม่สมควรนำมาเปิดเผยกับบุคคลอื่น การนำมาเปิดเผยต้องดูเจตนาความคาดหวังอันนำไปสู่ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้เสียหาย ดังเช่นที่จำเลยนำมาโอนถ่ายข้อมูลให้นาย ซ. ทราบเพื่อเป็นการประจานว่า ผู้เสียหายซึ่งเป็นคู่รักของนาย ซ. มีเพศสัมพันธ์กับจำเลยจริง ทั้งที่จำเลยรู้อยู่ว่านาย ซ. กับผู้เสียหายเป็นคู่รักกัน ทั้งนี้ก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้เสียหายเพื่อให้นาย ซ. เลิกจากการเป็นคู่รักกับผู้เสียหาย และการที่จำเลยโอนถ่ายข้อมูลจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจำเลยนั้นก็เป็นการเผยแพร่ภาพและเสียงในลักษณะของการโฆษณาแล้ว นอกจากนี้ ปรากฏว่าในช่วงเวลาใกล้เคียงกันภาพและเสียงดังกล่าวถูกเผยแพร่ให้ญาติและผู้เสียหายทราบเรื่อง พฤติการณ์แห่งคดีจึงเชื่อได้โดยปราศจากสงสัยว่า จำเลยรักผู้เสียหายแต่ผู้เสียหายไม่ยอมแต่งงานด้วยแล้วกลับมาคบหาเป็นคนรักกับนาย ซ. เป็นเหตุให้จำเลยโกรธแค้นจึงเผยแพร่ภาพและเสียงดังกล่าว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตาม ป.อ. มาตรา 328 สองกระทง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น